วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

รีวิว ร้าน "แอ๊ด ซีฟู๊ด" ศรีราชา [ชิมมาแล้ว]

                       ห่างหายจากการเขียนบล็อกมาซะนาน   ไม่ใช่ว่าไม่อยากเขียนนะ  จริงๆมันมีเรื่องให้มาโม้ มาเม้าส์ มาเขียนระบายเยอะแยะมากมายเลยแหละ  ก็ไม่ได้มีสาระอะไรหรอก     ก็แค่บางทีได้ไปอ่าน หรือพบเจอ ลองใช้ หรือชิม กินไรมา  ก็อยากจะนั่งเม้าส์ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้รู้และเข้าใจถึงสรรพสิ่งที่กิตติได้ไปประสบพบเจอมาบ้างก็เท่านั้นเอง  อิอิ          ก็เพราะอยู่คนเดียว บางทีที่มันอยากคุยกับใครสักคนจริงๆ  มันก็ไม่รู้จะหันหน้าไปคุยกับใครเนอะ  ก็เลยเลือกที่จะมาทำบล็อกระบายดีกว่า  บล็อกคอยรับฟังเราทุกอย่างดี      แต่ก็อย่างว่า   บางที...เราก็อยากได้การตอบสนองกลับมา  ซึ่งบล็อกทำไม่ได้  อิอิ  (ไม่มีใครมาตามอ่านสักหน่อย จะทำเพื่อ   555 เพ้ออีกแล้วตู    คนที่เคยรับฟัง....ฉันไม่มี หายไปแล้ว)

                     เหตุผลที่นานๆมาอัพเดตทีเพราะ ประกอบกับปัจจุบันนี้   คนเราก็หันหน้าไปซบอกเจ้ามือถือสมาร์ทโซนกันหมดแล้ว  ไม่ค่อยใช้โน็ตบุคสักเท่าไหร่   ดังนั้น ..... พอเวลาเราอยากจะเขียนบล็อก  ก็ต้องเอื้อมมือเอานิ้วไปกดเปิดโน็ตบุค  ซึ่งมันสูญเสียพลังงานมาก(เหรอ???)   อิอิ     จริงๆไม่มีไรหรอกจ้า   ก็แค่พอทำงานกลับมาถึงหอ  ก็อยากจะนอนเล่นพักผ่อนกายาให้สบายๆ      เลยขี้เกียจลุกขึ้นมานั่งเปิดโน็ตบุคแล้วก็ทำบล็อกต่างหาก   ไอ้ครั้นจะให้พิมพ์ในมือถือก็ไม่สะดวกนัก   เลยไม่ได้ลงมือเขียนสักทีจ้า  ......  เรื่องก็เป็นไปดังประการฉะนี้


                 อ่ะ....ไม่รู้เป็นโรคบ้าอะไร   ก่อนเขียนบล็อกที่ไร   จะต้องเกริ่นนำมาซะเยอะแยะบ้าบอ เพ้อเจ้อ เวิ่นเว้อตล๊อดด..ตลอดอ่ะ  อิอิ


                 อ่ะๆ   มาเริ่มจริงๆแล้ว    วันนี้เราจะมาคุยเล่าสู่กันฟังเรื่องร้านอาหารกันดีกว่าอย่าเรียกว่ารีวิวเลยนะ    เรียกว่าไปโดนมาแล้ว   ไปลองมาแล้ว  ไปชิมมาแล้วดีกว่า   ก็เลยอยากมาเล่าสู่กันฟัง     เรียกว่าเป็นแนวถนัดกันเลยทีเดียว  ทั้งเรื่องกินและเรื่องทดลองของใช้สูตรใหม่ๆนี่  


                  อ้า......วันนี้เป็นคิวของร้านอาหารนะ   ก็ไปไหนได้ไม่ไกลหรอก  วนไปเวียนมาอยู่แถวนี้นั่นแหละ     วันนี้เราจะไปตามชิมร้านอาหารร้านนึงอยู่ที่ศรีราชา  ชลบุรีนี่เอง      เป็นร้านที่เราก็ดูในรีวิวของคนอื่นเหมือนกัน  หาว่ามีร้านอร่อย ร้านดังในศรีราชาตรงไหนบ้าง  จนมาเจอร้านนี้  มีชื่อว่าร้าน "แอ๊ด ซีฟู๊ด" ศรีราชา  (ร้านติดริมทะเลเลยนะขอบอก)
วิวที่มองจากที่นั่งตรงระเบียงติดน้ำเลย
                 การเดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ แนะนำว่าให้มาจากพัทยาจะหาง่ายกว่ามาจากชลบุรีนะ    ก็ถ้ามาจากพัทยา ก็เลี้ยวซ้ายลงทางที่จะมาโรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชาเลยค่ะ      พอเจอหน้าโรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ก็เลี้ยวขวาตามทาง (ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมันบังคับเลี้ยวค่ะ   แต่ถ้าไม่ยอมเลี้ยวขวาจะตรงเข้าไปในโรงพยาบาล     แวะบริจาคเลือดก่อนก็ได้นะเออ  555)    

ถ้ามาจากพัทยานะคะ  วิ่งตามลูกศรที่ลากให้เลย
                 หลังจากนั้นพอเลี้ยวขวาตามทางมาให้มองซ้ายไว้ตลอดนะคะ  วิ่งต่อมานิดเดียวประมาณ 100 เมตร      ก็จะเจอซอยที่อยู่ฝั่งซ้่ายมือ มีป้ายหน้าซอยชัดเจนว่าซอย เจิมจอมพล 22 ก็ให้เลี้ยวซ้ายวิ่งตามทางลงมาเลยค่ะ  (ขอย้ำว่าอย่าลังเลนะคะ  ให้มุ่งหน้าวิ่งดิ่งตรงลงมาเลย       เพราะด้วยความที่ถนนมันแคบ  อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยเข้าไป  เกิดความลังเลใจได้ว่า   มันจะมีร้านอาหารอยู่ในซอยนี้เหรอวะ)   อย่าได้ลังเลค่ะ วิ่งตรงเข้ามาเลย ย้ำอีกครั้งว่า       สุดซอยไปเลยลูกพี่   พอสุดซอยปั๊บ.............ก็จะเจอร้านปุ๊บเลยค่ะ   (ขอแนะนำอีกนิดนะคะ ....  ถ้าคนขับรถไม่เก่งหรือกลัวถอยรถออกมายากตอนขากลับ  เพราะการกินข้าวอิ่มพุงตึงมากไป    อาจจะทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง (เกี่ยวกันไหมนี่  อิอิ)  คือจริงๆจะบอกว่าซอยมันแคบๆๆๆๆๆๆ มากๆเลยค่ะ  ตอนระหว่างที่วิ่งไปสุดซอยอ่ะ
เค้าจะทำที่จอดรถไว้ให้ ทั้งฝั่งซ้ายและขวาเลย  ทางที่ดี เอาชัวร์ๆ ก็ให้รีบสละรถไปเลย  แล้วเดินเข้าไปในร้านค่ะ  เดินนิดเดียว  ไม่ไกลหรอก  ลมเย็น อากาศดี เดินสบายค่ะ)

                   อ่ะ .... สิ่งแรกที่ลงไปเจอคือ   ตัวร้าน  มีในโซนที่เป็นร้านด้านในและร้านที่อยู่สุดทางสร้างติดทะเลนะคะ  สามารถมองเห็นทะเล และนั่งกินข้าวไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลป๋อมแป๋มได้ค่ะ
แต่โซนที่เป็นติดทะเล  ถ้าอยากนั่งจริงๆ  โทรไปก่อนก็ดีนะคะ  เพราะมีที่ให้นั่งจำกัด จองไว้ก่อนเลยค่ะถ้ารู้ตัวว่าอยากนั่ง  จะได้ไม่ต้องไปตบตีแย่งชิงทำตาเขียวใส่คนที่นั่งอยู่แล้ว
จะได้ไม่เซ็งและเสียอรรถรสในการรับประทานอาหารค่ะ
สภาพร้านค่ะ ชิวๆ บ้านๆ ไม่หรู เน้นสบายๆ เหมือนมากินข้าวเอารสชาติ ไม่เน้นบรรยากาศ

                   อ้า....วันนี้เรามาไวค่ะ  มั่วๆมาแบบไม่ได้จองโต๊ะ แต่บังเอิญมีที่ว่างเป็นโต๊ะริมทะเลพอดี๊...พอดีค่ะ   โชคดีไป ลมเย็นมาก อากาศดีเว่อร์ๆๆๆๆๆค่ะ       พอเรามานั่งโต๊ะปุ๊บก็มีคุณลุง (มโนเอาเองว่าคงเป็นแฟนกับป้าแอ๊ด เพราะแกดูแคล่วคล่องว่องไว  เจนจัดมากกับลีลาการรับออเดอร์อาหารแบบเฟี้ยวฟ้าว)          แกก็มารับออเดอร์อาหาร   โดยถือเมนูมาด้วย 1 แผ่น   ตามสไตล์ค่ะ สำหรับคนไม่เคยมา  ก็เลยหันไปถามทันทีว่า  มีเมนูอะไรแนะนำไหมคะ???    แกก็ตอบกลับมาทันทีว่า  ตามรูปเลยครับ  คนที่เค้ามาลองกินที่นี่ส่วนใหญ่ก็มักจะสั่งตามเมนูกัน
เมนูแบบว่า เคลือบอะคิลิคแข็งมาเลยอ่ะ

สภาพแบบว่า ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน แสดงว่าคงต้องขายดีจริง ต้องลองชิมซะแล้ว

                    อ่ะ..........ก็ก้มหน้าดูเมนูสักพัก  เลยจึงเงยหน้ามาสั่งว่า เอาปลาหมึกทอดน้ำดำ  ยำวุ้นเส้นทะเล  ทะเลผัดฉ่า  ปลาทูต้มมะนาว  อ่ะลองจัดมา 4 เมนูจัดกันเบาๆ       นั่งรอสักพักค่ะ   ระหว่างรอก็ถ่ายรูปกันไปพร่างๆ  ลมเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังจะตก  สวย ชิว ฟินดีค่ะ    มองเห็นเกาะลอยด้วย
มองเห็นเกาะลอยอยู่ไกลๆ

                     และแล้ว.........แท๊น....แท้น......    เวลาผ่านไปอาหารก็มา   เราลองมาดูหน้าตากันค่ะ
ปลาหมึกทอดน้ำดำ

ซอสจิ้มศรีราชา

                   อย่างแรกเลย ปลาหมึกทอดน้ำดำ  ก็เป็นปลาหมึก ลักษณะคล้ายๆหมึกกะตอยนะคะ  ทำการทอดและคลุกกับน้ำปรุงรสมาอย่างดี หน้าตาก็สมชื่อค่ะ ดำๆมันๆ     เสิร์ฟคู่กับซอสพริกศรีราชา 1 ถ้วย   มาชิมกันดีกว่าค่ะ  ว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างไร ......... ตักขึ้นมาเนื้อัมผัสของปลาหมึกก็จะเยิ้มๆด้วยน้ำมันและซอสน้ำดำๆปรุงรสนะคะ      พอกัดเข้าปากไปเท่านั้นแหละค่ะ เนื้อปลาหมึกนุ่มเด้งดีนะคะ  ไม่เหี่ยวเหนียวเหมือนที่มโนไว้ตามสไตล์ปลาหมึกทอด   แต่กลับพบว่า มันช่างนุ่มละมุนลิ้นดีจัง กินเพียวๆก็อร่อย       แต่ถ้าจะราดด้วยซอสที่เสิร์ฟคู่กันก็ตัดเลียนจากความมันดีค่ะ  จานนี้ทั้งหน้าตาและรสชาติพี่ให้ 10 เลยอ่ะ
ยำวุ้นเส้นทะเล
                   มาจานที่ 2 ยำวุ้นเส้นทะเล   ก็ขนทะเลมาใส่อยู่ในจาน พรากแม่พรากลูกทั้งกุ้ง ทั้งหมึกเลยค่ะ   หน้าตาของเจ้ายำวุ้นเส้นมันดูซีดเซียว จืดชืด ไม่สดใส สีสันดูไม่จัดจ้านเข้มข้นเลยค่ะ
อ่ะ...งั้นมาลองชิมรสชาติบ้างเนอะ  ตักเข้าปากเข้าไป ป้าบเข้าให้  โอ้....แม่เจ้า อร่อยดีค่ะ รสชาติแซ่บๆขัดกับหน้าตามาก พูดเลย  งั้นจานนี้ทั้งหน้าตาและรสชาติพี่ให้ 8 นะ        แอบหักตรงหน้าตาเป็นแบบนางเอ๊ก นางเอกที่แบบเรียบร้อย ใสซื่อบริสุทธิ์อ่ะ แต่พาลองชิมแล้วแอบแซ่บนะฮะ
ทะเลผัดฉ่า
                    มาจานที่ 3  ทะเลผัดฉ่า   จานนี้สำหรับเรานี่ถือว่าเป็นไฮไลต์เลย  ทีเด็ดมันอยู่ที่เครื่องพริกแกงที่เค้าเอามาทำผัดฉาอ่ะค่ะ   เค้าให้เป็นพริกเหลือง  พอเวลาผัดออกมาสีเลยดูเหลืองนวลน่ากิน
พอมันคลุกเคล้าเข้ากับเนื้อขาวๆเด้งๆของปลาหมึกสาวขาวอวบเข้าไป  จะต้องร้องว่าอื้อหื้อ......หร่อยอ่ะ  จานนี้บอกตรง มีดีที่พริกแกงกับเครื่องผัดฉ่าค่ะบอกตรง  เค้าไม่หวงเครื่องเลยแม้แต่น้อย
จานนี้พี่ปลื้ม.......เอาไป 10 กะโหลก
ปลาทูต้มมะนาว

                      และแล้วก็มาที่จานสุดท้าย จานที่ 4  ปลาทูต้มมะนาว  (มาเป็นหม้อไฟเลยเจ้าค่ะ)  หน้าตานางก็เป็นน้องปลาทูหน้างอคอหัก นอนแช่อยู่ในน้ำแผ่หลาแองแมงผลุบๆโผล่ๆในน้ำซุปต้มยำ
ร้อนๆเดือดพลั๊กๆๆๆ   แต่น้องปลาทูขาวอวบของเราไม่เหงานะคะ  เพราะมีน้องพริกทุบลอยอยู่เป็นเพื่อน  แต่อย่าเผลอเค้ยวเข้าไปนะเออ  ลูกโดดดีๆนี่แหละ  เผ็ดจี๊ดขึ้นมา จะน้ำหูน้ำตาไหล
ระวังจะเผลอกระโดดลงน้ำทะเลลงไปดับอาการเผ็ดร้อนนะจ๊ะ   หม้อนี้...ศิริรวมนับน้องทู มีอยู่ 8 ตัวด้วยกัน  เลี้ยงว่าอัดมาแน่นๆ  นอนเบียดๆกันอยู่ในหม้อ เหมือนให้คน 8 คน นอนบนเตียง
3 ฟุตครึ่งเชียวนะเออ    จานนี้  เอาใจไปเลย 8 ดวง


                       พอถึงเวลากินอิ่ม  ก็ต้องจรลีกลับบ้านตัวใครตัวมัน  ก็เรียกเค้ามาเช็คค่าเสียหาย ยอดทั้งหมดก็คือ...........แท๊นแท้นนนนนนน  ทำเสียงอลังการหน่อยนะ       ทั้งหมดก็ 610 บาทค่ะ ก็ถือว่าไม่แพงนะ  เมื่อเทียบกับปริมาณและรสชาติ
ค่าเสียหาย

                           อ้า.........ใครมีเวลาว่าง  แล้วอยากลองปลีกวิเวกไปนั่งกินข้าวร้านริมทะเล ที่ไม่เอาแค่บรรยากาศบ้านๆเบาๆคนไม่พลุกพล่าน ก็ลองไปร้านนี้ดูนะคะ  หาไม่ยากเลย      ไม่หลงหรอกค่ะ   เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า  "หลงให้ตายยังไงก็ไม่เกิน 100 กิโลหรอก"  ใครเคยกล่าวเอาไว้อ่ะเหรอ????   ไม่บอกหรอก   อยากให้สงสัยใคร่รู้ไปอย่างงั้นแหละ 555

                           ก่อนจะกลับ  กินเสร็จก็มาชมวิวเดิมก่อนกลับซะหน่อยนะ  พอมืดแล้ว  แสงไฟสว่างไสวก็เปล่งออกมา     พระอาทิตย์ขอลาไปนอน   พระจันทร์ก็มาทำงานกะดึกแทน  


                       แอบโชว์เศษซากที่เหลือเป็นภาพทิ้งท้ายแล้วกันเนอะ  อิอิ   อาจจะไม่น่ามองนักเน้อ  เตือนไว้เลย


                       แล้วเจอกันใหม่นะ  รอลุ้นกัน  ว่าจะมาโชว์ ไปโดนมาแล้ว   ไปลองมาแล้ว  ไปชิมมาแล้ว  หรือไปเที่ยวมาแล้ว  หรือว่า จะมาบ่นอีกแล้ว  ก็ตามๆกันเอาเน้อ      (พูดให้ดูดีเหมือนมีแฟนคลับไปงั้นแหละ  เผื่อมีใครเผลอมาอ่าน)


                                                                                  จนกว่าจะพบกันใหม่  XOXO